ด้วยนักศึกษาปัจจุบันต้องปรับตัวกับการเรียนการสอนที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบทั้งหลากหลายและรวดเร็ว และสถานการณ์ต่างๆ รอบตัว อีกทั้งข้อมูลข่าวสารจากช่องทางต่างๆ รอบตัว อาจทำให้หลายคนรู้สึกกดดันหรือมีความเหนื่อยล้า ท้อแท้ หมดกำลังใจ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) โดย งานให้คำปรึกษาและช่วยเหลือนักศึกษา ส่วนพัฒนานักศึกษา จัดกิจกรรมเติมพลังใจให้ตัวเอง (Event Happier) ในรูปแบบเรียนรู้ควบคู่กับการทำกิจกรรม (workshop) วิทยากรโดยทีมเจ้าหน้าที่ส่วนพัฒนานักศึกษา เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษารู้จักเติมการพลังใจให้ตนเอง การรู้จักผ่อนคลายและจัดการอารมณ์ในเบื้องต้น มองเห็นข้อดีและตระหนักถึงคุณค่าของตนเอง โดยเป็นการดำเนินงานเชิงรุกเพื่อป้องกันปัญหาด้านสุขภาพจิต เช่น โรคเครียด ซึมเศร้า ฯลฯ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพจิตที่ดีต่อไป โดยกิจกรรมจัดขึ้นที่ห้องพวงชมพู ชั้น 5 อาคาร E-Park (M- Square) มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 มีนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 50 คน
.
อภิญญา นาคะสิงห์ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 จากสำนักวิชาการจัดการ เป็นหนึ่งคนที่เข้าร่วมกิจกรรม ระบุว่าตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมเพราะเห็นว่าหัวข้อน่าสนใจน่าจะนำไปใช้ประโยชน์กับตัวเองได้ ทั้งในส่วนของเนื้อหาในการอบรมและการมีโอกาสได้ทดลองเข้าร่วมกิจกรรมอื่นที่นอกจากการเรียน และที่สำคัญเป็นโอกาสหนึ่งที่ได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่
.
“เริ่มปิดเทอมแล้วไม่อยากอยู่บ้านอย่างเดียว และอยากได้เพื่อนใหม่เพราะช่วงก่อนนั้นเรียนออนไลน์ไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักใคร ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมที่ปกติมหาวิทยาลัยจะจัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่อย่างการรับน้อง เมื่อเข้ามาเรียนออนไซต์ยังรู้จักเพื่อนได้ไม่มาก อาคารสถานที่ในมหาวิททยาลัยก็ยังไปได้ไม่หมด มีกิจกรรมนี้ก็เป็นโอกาสที่มาเข้าร่วมแล้วก็สำรวจอาคารต่างๆ ว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง...
.
...และเพื่อพบเจอเพื่อนใหม่ๆ ทำกิจกรรมอื่นๆ นอกจากการเรียนได้ลองเข้าร่วมดูว่ามีอะไรที่ตัวเองชอบไหม สำหรับกิจกรรมวันนี้ ชอบที่มีการเน้นเกี่ยวกับว่าให้เรารู้จักตัวเอง รักตัวเอง ที่ชอบที่สุดคือให้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนๆ ที่นั่งข้างๆ ว่ามาจากไหน ชอบทำกิจกรรมอะไร ทำให้เราได้รู้ว่าเพื่อนเป็นอย่างไร นิสัยอย่างไร ถ้าเราไม่เริ่มจากการทักทายเราก็ไม่รู้จักใครเลย ที่ต้องพยายามมากๆ ในการทำความรู้จักเพื่อนเพราะเพื่อนมีส่วนช่วยเรื่องการเรียนอย่างมากไม่ว่าจะอยู่ในสำนักวิชาเดียวกันหรือไม่ก็ตาม ถ้าเรียนด้วยกันก็ช่วยให้ง่ายขึ้นเมื่อต้องทำงานกลุ่ม หากอยู่ต่างสำนักวิชาก็ทำให้เราได้รู้อะไรๆ รอบตัวมากขึ้น” น้องใหม่ปี 1 อย่างอภิญญา อธิบายถึงเหตุผลในการเข้าร่วมกิจกรรม
.
อีกคนหนึ่ง คือ สุประวีณ์ จิตต์ประเสริฐ นักศึกษาชั้นปี 2 จากสำนักวิชานิติศาสตร์ เล่าถึงเหตุผลที่เข้าร่วมกิจกรรมว่า เพื่อนชวนมาว่าเป็นกิจกรรมน่าสนใจจึงอยากเข้าร่วมโดยมีเหตุผลหลายข้อประกอบกัน อย่างแรกคือการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยมีความแตกต่างจากเมื่อครั้งเรียนในระดับมัธยมเธอยังปรับตัวได้ไม่เก่งมาก.
.
“ม.ปลายข้อสอบยังมีเป็นตัวเลือก ยังเดาได้บ้าง แต่มหาวิทยาลัยแล้วก็ต้องเขียนตอบอย่างเดียว ด้วยเรียนนิติศาสตร์มีเนื้องหาวิชาที่ส่วนหนึ่งต้องใช้การจดจำด้วย ต้องท่องจำมาตรากฎหมายต่างๆ เพื่อนำมาเขียนตอบในการสอบ ทำให้เกิดความเครียดอย่างมาก บางครั้งจัดการผ่อนคลายได้บางครั้งก็ต้องใช้เวลานานกว่าความเครียดจะคลี่คลาย ต้องพักเบรคกินขนมดูหนังฟังเพลงสักพักค่อยกลับไปอ่านหนังสือต่อได้ นอกจากนี้การเข้าร่วมกิจกรรมนี้ก็เพื่อหาเพื่อนเพราะช่วงที่ออนไลน์ไม่ค่อยมีกิจกรรมกลับมาเรียนออนไซต์แต่ละคนก็มีกลุ่มที่สนิทกันไปแล้ว เมื่อมีกิจกรรมนอกจากการเรียนจึงพยายามเข้าร่วมเพื่อจะเป็นโอกาสทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่เพิ่มให้มากขึ้นด้วย” สุประวีณ์ กล่าวถึงเหตุผลในการเข้าร่วมกิจกรรมไว้อย่างนั้น
