มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) จัดพิธีถวายผ้าป่าเพื่อการศึกษา และพิธีมอบทุนการศึกษา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประจำปีการศึกษา 2565 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2565 ณ หอประชุมสมเด็จย่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเนื่องในโอกาสครบรอบ 24 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง โดยในเวลา 09.00 น. เป็นพิธีทางศาสนาและพิธีถวายผ้าป่าเพื่อการศึกษา ประจำปี 2565 และในเวลา 11.00 น. เป็นพิธีมอบทุนการศึกษา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประจำปีการศึกษา 2565 โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.วันชัย ศิริชนะ นายกสภามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษา และร่วมมอบทุนการศึกษาให้แก่ตัวแทนนักศึกษาทุน พร้อมด้วย รศ. ดร.ชยาพร วัฒนศิริ อธิการบดี กรรมการสภามหาวิทยาลัย รองอธิการบดี นายกสมาคมนักศึกษาเก่า และแขกผู้มีเกียรติ ซึ่งในปีการศึกษา 2565 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้มอบทุนการศึกษา จำนวน 892 ทุน รวมเป็นเงินกว่า 29 ล้านบาท
ในโอกาสนี้ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.วันชัย ศิริชนะ นายกสภามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้กล่าวให้โอวาทแก่นักศึกษาที่ได้รับทุน ความว่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงมีเจตนารมณ์แน่วแน่ในการเป็นมหาวิทยาลัยแห่งโอกาส และจะไม่มีนักศึกษาคนใดต้องออกจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เพราะความยากจน
“สิ่งที่ประกาศเป็นเจตนารมณ์ไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ในวันนั้นเรายังไม่มีไม่มีเงิน แต่เมื่อประกาศเจตนารมนี้ไปก็มีคนซึ่งเห็นด้วยกับหลักการที่ว่า นักศึกษาที่เขาอยากเรียน เขามีความสามารถ ทำไมไม่ให้โอกาสเขาที่จะได้เรียน ก็เลยมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ร่วมทางเข้ามามากมาย จากเริ่มต้นไม่กี่หมื่นบาท จะเห็นได้ว่าเราได้มอบทุนการศึกษาในวันนี้ประมาณ 29 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มอบทุนการศึกษามากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย”
“ในส่วนของทุนการศึกษาสิรินธรฯ นั้นเราตั้งใจที่จะตั้งขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ เพราะท่านเป็นคนซึ่งให้โอกาส สนับสนุน และส่งเสริมด้านการศึกษา โดยเฉพาะในกลุ่มที่ด้อยโอกาสมาโดยตลอด ผมมีโอกาสตามเสด็จตามที่ต่าง ๆ พอสมควร ได้เห็นความรู้สึกของพระองค์ท่านที่ต้องการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เราก็เลยมาจัดตั้งกองทุนสิรินธรฯ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นกองทุนที่เรามอบให้นักเรียนที่ด้อยโอกาสตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และใครที่สามารถสอบเข้ามาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้ ก็จะให้ทุนต่อเนื่องจนสำเร็จการศึกษา ซึ่งบัดนี้ก็เรียนจบไปมากมายแล้ว”
“อย่างไรก็ตามแต่ อยากเรียนท่านที่เคารพทั้งหลาย รวมทั้งอาจารย์และนักศึกษาของเรา ว่าเจตนารมณ์ในการให้ทุนการศึกษานั้นคือการให้โอกาส ให้นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์อยู่มาก หรืออาจมีปัญหาในการใช้จ่ายของครอบครัวได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนโดยความสะดวกมากยิ่งขึ้น ได้มีโอกาสที่จะสำเร็จการศึกษาออกไป และได้มีโอกาสที่จะทำตัวเป็นพลเมืองดีของชาติ ผมมีความรู้สึกอย่างนี้มาโดยตลอด ถึงวันนี้เราก็มีคนสนับสนุนให้ทุนมาเป็นจำนวนมาก รวมทั้งอาจารย์ของเราเองก็ให้ทุน รวมถึงท่านอธิการบดีด้วย ร่วมกันให้ทุนนักศึกษามามากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ใดสนใจเราก็ยินดีรับ”
“เราทำอย่างนี้เพื่ออะไร เราทำอย่างนี้เพื่อหวังว่าคนซึ่งมีสติปัญญา มีความรู้ความสามารถ จะได้มีโอกาสใช้ความรู้ความสามารถที่เขามีอยู่นั้นได้อย่างเต็มที่ ถ้าเราปล่อยให้คนที่มีความรู้ความสามารถถูกทิ้งอยู่โดดเดี่ยว และไม่มีโอกาสได้เล่าเรียน อันนั้นคือการสูญเสียทรัพยากรของบ้านเมืองอย่างน่าเสียดายที่สุด เพราะฉะนั้นผู้ที่ได้รับการศึกษาทุกคน ผมถือว่าเป็นคนซึ่งมีคุณภาพ มีความสามารถตามสติปัญญา มีความสามารถที่จะไปทำอะไรให้เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมืองได้อีกมากมาย เพราะฉะนั้นการให้โอกาสด้วยทุนการศึกษานั้น ก็คือทำให้ประเทศชาติแห่งนี้ได้คนดี ๆ ออกไปรับใช้สังคม และคนดี ๆ ได้ช่วยเหลือครอบครัวตนเองอีกด้วย”
“บรรดาผู้รับทุนทั้งหลาย ก็คงต้องเป็นผู้ซึ่งมีความเข้าใจถึงเจตนารมณ์ของคนที่เขาให้ทุน ไม่ใช่เฉพาะองค์กรหรือบุคคลใดก็ตาม เขาต้องการให้เราได้รับโอกาส เขาต้องการให้เรามีสติปัญญา เขาต้องการให้เราเป็นคนดีของสังคม เขาต้องการให้เรานั้นได้ยังประโยชน์ให้กับบ้านเมืองแห่งนี้ นอกเหนือจากครอบครัวของเราเองแล้ว เพราะฉะนั้นก็คงต้องคิดอยู่เสมอว่าโอกาสที่เราได้รับเกิดจากความตั้งใจของผู้ที่เขาจะให้ เพราะฉะนั้นเราเป็นผู้รับ เราก็ต้องเป็นผู้รับที่มีความกตัญญู ความกตัญญูของเรานั้นไม่มีอะไรเลย ก็คือการทำตัวให้เป็นคนดีเท่านั้นเอง ผู้ให้เขาก็มีความสุขแล้ว”
“วันนี้เรามีตัวแทนมารับทุนจำนวนหนึ่ง แต่จริง ๆ แล้วให้มากกว่านี้ ดีใจกับทุกคนที่ได้รับทุนในวันนี้ด้วย หวังว่าจะมีความสุข มีความสำเร็จในการเล่าเรียนและประกอบอาชีพการงานต่อไป ขอให้นักศึกษาทุกคนที่ได้รับทุนทุกคนจงโชคดี และศึกษาที่ไม่ได้รับทุนที่คอยเชียร์อยู่ข้างหลังก็ขอให้โชคดีทุกคน ขอแสดงความยินดี ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ทุนการศึกษากับนักศึกษาทุกคนด้วย” ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.วันชัย ศิริชนะ นายกสภามหาวิทยาลัย กล่าว
นางสาวทิภาพร อินสองใจ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สำนักวิชาการแพทย์บูรณาการ สาขาวิชาการแพทย์แผนจีน เป็นตัวแทนนักศึกษาทุน กล่าวขอบคุณ
“หนูเป็นนักศึกษาทุนการศึกษาสิรินธรเพื่อเพื่อนักศึกษาในท้องถิ่นทุรกันดาร มาจากสำนักวิชาการแพทย์บูรณาการ สาขาวิชาการแพทย์แผนจีน หนูรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับมอบหมายเป็นนักศึกษาอากาศแสดงความรู้สึกในครั้งนี้ หนูเคยเป็นเด็กที่ครอบครัวสนับสนุนทุกอย่าง เป็นครอบครัวที่อบอุ่น มีคุณพ่อเป็นเสาหลักของครอบครัว มีคุณแม่ มีหนู แล้วก็น้อง จนมาวันหนึ่งคุณพ่อได้เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว ทำให้คุณแม่ต้องทำงานหนักเพียงคนเดียว และต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายของทางบ้าน”
“หนูเคยถามแม่ว่า ส่งหนูกับน้องเรียนต่อไหวไหม ท่านตอบว่าส่งไหว ทั้งที่ในใจหนูรู้ว่าแม่ส่งหนูกับน้องไม่ไหว หนูจึงตัดสินใจทำงานเสริมและเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้ให้น้องได้เรียน และให้หนูได้เรียนไปด้วย จนได้รับความช่วยเหลือจากทุนการศึกษาสิรินธร โดยคุณครูท่านหนึ่งในสมัยโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น ท่านชื่อคุณครูบัวจันทร์ บุญทร ท่านพยายามช่วยเหลือหนูมาตลอด คอยส่งเอกสารทุนต่าง ๆ ให้ จนหนูสอบติดโรงเรียนประจำจังหวัด ในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ทำให้แม่ต้องรับต้องรับภาระของครอบครัวมากขึ้น โชคดีเป็นปีแรกที่หนูได้รับความช่วยเหลือจากโครงการทุนการศึกษาสิรินธร ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวหนูได้มาก และทุกเสาร์อาทิตย์หรือช่วงปิดเทอมหนูก็ยังทำงานเสริม และเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้ให้น้องได้เรียนเหมือนหนู และเก็บส่วนหนึ่งสะสมไว้เผื่อหนูจะได้เรียนต่อในระดับอุดมศึกษา”
“หนูรู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้มาเรียนในมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยที่ทรงเกียรติแห่งนี้ ได้มาเรียนในสำนักวิชาการแพทย์บูรณาการ สุดท้ายนี้หนูขอขอบคุณท่านนายกสภามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ท่านกรรมการสภามหาวิทยาลัย ท่านอธิการบดี ท่านคณาจารย์ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการมอบโอกาสครั้งนี้ให้พวกหนู พวกเราขอสัญญาว่าจะใช้เงินทุกบาทอย่างประหยัด จะตั้งใจเรียน จะตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อเป็นเกียรติและศักดิ์ศรีของนักศึกษาทุนการศึกษาสิรินธร และปฏิบัติตนเป็นคนดีของประเทศชาติต่อไป ขอขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ” นางสาวทิภาพร อินสองใจ กล่าว