‘อธิการบดีพบพนักงาน’ ย้ำ ‘มฟล. เป็นหนึ่ง’ สร้างผลสำเร็จ ร่วมก้าวสู่เป้าหมายระดับนานาชาติ พร้อมส่งเสริมนโยบายสร้างสุขพนักงาน

หมวดหมู่ข่าว: ข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวเด่น

      มหาวิทยาลัยฟ้าหลวง (มฟล.) โดย ส่วนประชาสัมพันธ์ และ ส่วนการเจ้าหน้าที่ จัดกิจกรรม อธิการบดีพบพนักงาน (Meet the President) ประจำปี 2565 เมื่อวันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2565 เวลา 15.00-16.00 น. ณ หอประชุมสมเด็จย่า (C4) โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ชยาพร วัฒนศิริ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้ใช้โอกาสนี้พบปะพนักงานเป็นประจำทุกปี เพื่อชี้แจงความก้าวหน้าของมหาวิทยาลัย การเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของไทย 4 ปีซ้อนจากการจัดอันดับของ THE นโยบายสำคัญในอนาคต โดยย้ำถึงผลสำเร็จของการดำเนินงานรอบด้าน เป็นผลมาจากความร่วมมือร่วมใจของชาวมหาวิทยาลัยทุกภาคส่วน รวมถึงได้บอกเล่าถึงนโยบายในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสวัสดิการด้านต่าง ๆ เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยได้อย่างมีความสุข โดยมีคณะผู้บริหาร คณาจารย์ และพนักงานสายปฏิบัติการเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 800 คน

      รองศาสตราจารย์ ดร.ชยาพร วัฒนศิริ อธิการบดี มฟล. กล่าวว่า นับแต่เริ่มต้น มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้สืบสานแนวพระราชปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในการ ‘ปลูกป่า สร้างคน’ โดยมุ่ง "สร้างคน สร้างความรู้ สร้างคุณภาพ สร้างคุณธรรม และอนุรักษ์ธรรมชาติ" โดยมุ่งหวังให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นที่พึ่งทางปัญญาของสังคม สามารถผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน

    แม้ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยน้องใหม่ที่มีอายุเพียง 24 ปี ในปี 2565 แต่มีผลงานด้านวิชาการที่โดดเด่น โดยได้รับการจัดอันดับ Times Higher Education World University Rankings ให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของไทย 4 ปีซ้อน (2019-2022) มีผลคะแนนเป็นอับดับ 1 ในด้านการอ้างอิงผลงานวิจัยและความเป็นนานาชาติ ซึ่งที่ผ่านมามีนักศึกษาเข้าศึกษาต่อมาจากทุกภูมิภาคของไทย และยังมีจำนวนนักศึกษาต่างชาติเพิ่มมากขึ้นทุกปี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการได้รับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยจากองค์กรระดับนานาชาติ การันตีถึงคุณภาพในการจัดการเรียนการสอน อาทิ การจัดอันดับมหาวิทยาลัย THE,  SCIMAGO, QS STAR เป็นต้น

    ปัจจุบัน มีผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงมากกว่า 35,000 คน และในปีการศึกษา 2565 มีจำนวนนักศึกษาใหม่กว่า 4,000 คน เป็นนักศึกษานานาชาติ 369 คน ซึ่งมหาวิทยาลัยไม่ได้ประสบปัญหาจำนวนนักศึกษาลดลงเหมือนแนวโน้มที่เกิดขึ้นในสถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ ทั่วโลก

    มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ตลอดมานั้นได้รับการสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งจากรัฐบาล และอีกส่วนหนึ่งมหาวิทยาลัยต้องดำเนินการจัดหารายรับด้วยตนเอง เพื่อให้ครอบคลุมงบประมาณในการดำเนินงานทุกด้าน อันประกอบด้วย งบลงทุน 21.97% งบดำเนินงาน 43.05% งบบุคลากร 34.97% โดยมีเป้าหมายในการดำเนินนโยบายตามหลัก BCG ที่มุ่งสร้างระบบนิเวศการเรียนและหลักสูตรที่ทันสมัย ขยายฐานการวิจัยสู่ความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์การเป็นที่พึ่งแก่สังคม และบริหารองค์กรเพื่อความเป็นหนึ่ง (MFU·FIRST)

       ในการบริหารองค์กรเพื่อความเป็นหนึ่งนั้น  มหาวิทยาลัยใช้เกณฑ์คุณภาพเพื่อการดำเนินการที่เป็นเลิศ (EdPEX) และมุ่งสู่การเป็น Data-driven Organization โดยมีการกำหนด Road map ในการเป็น Digital University ทั้งยังมีการส่งเสริมการดำเนินงานตามหลักคุณธรรมและธรรมาภิบาลในองค์ ซึ่งได้รับผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ประจำมีงบปรรมาณ 2565 จาก ป.ป.ช. ด้วยผลคะแนน 95.70 จัดอยู่ในระดับ AA

    นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงยังมุ่งหมายเป็นที่พึ่งทางด้านสุขภาพให้แก่ประชาชน โดยการดำเนินงานของ ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ที่ประกอบด้วย โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง MFU Wellness Center และ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (สถาบันการแพทย์แผนไทย-จีน) ซึ่งครอบคลุมการดูแลรักษาสุขภาพของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง และการเป็นศูนย์กลางการศึกษาวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง รวมทั้งได้ผลักดันนโยบายสำคัญในการมุ่งสู่การเป็น Wellness Hub ของอาเซียน โดยมุ่งพัฒนาธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ เครื่องสำอางและสมุนไพร ประชาชนมีสุขภาพดีทุกช่วงวัย พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และสร้างความร่วมมือกับองค์กรหรือผู้ประกอบการธุรกิจทางด้านสุขภาพ

   สำหรับโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตนั้น มหาวิทยาลัยได้เตรียมจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านโรคติดต่อแห่งอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง อาคารพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของสวนพฤกษศาสตร์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อาคารกิจกรรมนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ และ M-Walkway เป็นต้น

   จะเห็นได้ว่าในการดำเนินงานแต่ละด้าน จำเป็นต้องใช้สรรพกำลังของบุคลากรทุกภาคส่วน มหาวิทยาลัยจึงมีนโยบายสำคัญในการพัฒนาศักยภาพบุคลากร โดยมีการสร้างเส้นทางความก้าวหน้าทางสายอาชีพ การให้ทุนการศึกษาสำหรับบุคลากร โครงการเสริมสร้างทักษะและความรู้ที่จำเป็น ทั้งการจัดอบรมภายในและการจัดสรรงบประมาณเพื่อฝึกอบรมภายนอก ทั้งการศึกษาดูงานและสัมมนา การให้ทุนวิจัยแก่นักวิจัย หน่วยวิจัย กลุ่มวิจัย และศูนย์วิจัยต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง

    นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังได้สนับสนุนสิทธิประโยชน์ด้านต่าง ๆ ให้แก่บุคลากร เช่น สิทธิประโยชน์ทางด้านการเงิน สิทธิการลาประเภทต่าง ๆ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนเงินสะสมสมทบ สหกรณ์ออมทรัพย์ สินเชื่อพิเศษร่วมกับธนาคาร ค่าเล่าเรียนบุตร ทั้งยังมีสวัสดิการสุขภาพ เช่น MFU Family Service ณ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ฯ สวัสดิการค่าตรวจรักษาสุขภาพประจำปี สวัสดิการค่ารักษาพยาบาลและทันตกรรม และล่าสุดคือการปรับให้มีการยืดหยุ่นเวลาเข้างานเพื่อให้เหมาะสมกับการเดินทางของแต่ละคนและสภาพการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วนอีกด้วย

   ที่ผ่านมานั้น มหาวิทยาลัยคำนึงถึงนโยบาย Happy Workplace มาโดยตลอด ด้วยแนวนโยบายและการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การขยายการต่อสัญญาจ้างพนักงานสูงสุด 10 ปี จัดให้มีสถานที่ออกกำลังกายและกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพตลอดทั้งปี บริการทางการแพทย์และให้คำปรึกษาสุขภาพกับพนักงาน กิจกรรมพนักงานสัมพันธ์ กิจกรรมวันครอบครัว

   นับได้ว่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้วางแนวนโยบายในการดูแลพนักงานได้อย่างครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถร่วมผลักดันการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ได้อย่างเต็มกำลังและสัมฤทธิ์ผล เพื่อสมกับที่มีวัฒนธรรมองค์กรคือ MFU ·FIRST หรือ “มฟล. เป็นหนึ่ง” และร่วมก้าวสู่เป้าหมาย การเป็นมหาวิทยาลยชั้นนำของอาเซียน ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ

  • 1653 ครั้ง
  • #อธิการบดี #ข่าวส่วนประชาสัมพันธ์ #ส่วนการเจ้าหน้าที่