มฟล. จัดพิธีมอบเสื้อกาวน์แก่นักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 4 รุ่นที่ 9 ก้าวสู่การฝึกวิชาชีพชั้นคลินิก คณบดีฝากโอวาทต้องนึกถึงผู้ป่วยเป็นกิจที่หนึ่ง

หมวดหมู่ข่าว: ข่าวเด่น

     เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2567 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) จัดพิธีมอบเสื้อกาวน์แก่นักศึกษาแพทย์ สำนักวิชาแพทยศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 รุ่นที่ 9 ประจำปีการศึกษา 2567 จำนวน 41 คน ณ หอประชุมสมเด็จย่า โดยมี ศ.เกียรติคุณ นพ.ศุภกร โรจนนินทร์ รักษาการแทนคณบดีสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มฟล. เป็นประธานในพิธี รศ. พลตรีหญิง พญ.แสงแข ชำนาญวนกิจ รักษาการแทนรองคณบดีสำนักวิชาแพทยศาสตร์ กล่าวรายงาน พร้อมด้วยคณาจารย์สำนักวิชาแพทยศาสตร์เข้าร่วมพิธีมอบเสื้อกาวน์ ณ หอประชุมสมเด็จย่า และพิธีถวายเครื่องราชสักการะ ณ พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทั้งยังมีผู้ปกครองและครอบครัวเข้าร่วมงานเพื่อแสดงความยินดีกับนักศึกษาแพทย์

    รศ. พลตรีหญิง พญ.แสงแข ชำนาญวนกิจ รักษาการแทนรองคณบดีสำนักวิชาแพทยศาสตร์ กล่าวรายงานว่า พิธีมอบและสวมเสื้อกาวน์ หรือ White coat ceremony เป็นพิธีที่ถือปฏิบัติในโรงเรียนแพทย์ต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อแสดงความยินดี และต้อนรับนักศึกษาแพทย์ที่จะเข้าสู่เส้นทางวิชาชีพแพทย์ โดยพิธีมอบเสื้อกาวน์ในวันนี้ เป็นการจัดพิธีมอบและสวมเสื้อกาวน์ให้แก่นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 4 ประจำปีการศึกษา 2567 จำนวน 41 คน หลังจากที่นักศึกษาแพทย์ได้ผ่านการศึกษาระดับวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐานในชั้นปรีคลินิก และจะก้าวเข้าสู่การศึกษาในชั้นคลินิก ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาผู้ป่วยโดยตรง ซึ่งนักศึกาแพทย์ มฟล. จะต้องขึ้นฝึกปฏิบัติวิชาชีพที่โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร และโรงพยาบาลลำพูน จังหวัดลำพูน โดยการสวมเสื้อกาวน์นั้นเป็นการเตือนใจให้นักศึกษาแพทย์ ได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบที่จะเกิดขึ้นตามมา ในการปฏิญาณตนและยอมรับในพันธะสัญญาในการประกอบวิชาชีพแพทย์ อันประกอบด้วย การมีความรู้อย่างดี การดูแลรักษาผู้ป่วยด้วยความเอาใจใส่เปรียบประดุจเป็นญาติพี่น้องของตนเอง มีความซื่อสัตย์ รับผิดชอบ คุณธรรม จริยธรรมและยึดถือผลประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นที่ตั้ง ตลอดจนเคารพในความเป็นมนุษย์ของทั้งด้านผู้ป่วย และเพื่อนร่วมวิชาชีพ

     ศ.เกียรติคุณ นพ.ศุภกร โรจนนินทร์ รักษาการแทนคณบดีสำนักวิชาแพทยศาสตร์ ได้บรรยายพิเศษในหัวหข้อ “การก้าวเข้าสู่วิชาชีพแพทย์ และความสำคัญของเสื้อกาวน์”และให้โอวาทแก่นักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 3 ที่จะก้าวขึ้นสู่ชั้นปีที่ 4 ในปีการศึกษา 2567 นี้ มีใจความส่วนหนึ่งว่า

      “วันนี้เป็นวันที่ดีของศิษย์รักทุกคน เมื่อนักศึกษาแพทย์ได้ใส่เสื้อกาวน์แล้ว มองดูพวกเขามีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น จากที่เคยมองเห็นเป็นเด็กนักศึกษา ทำไมเราต้องใส่เสื้อกาวน์ เสื้อกาวน์อาจเอาไว้ใส่กันเปื้อนเวลาอยู่ในห้องแล็บ หลายอาชีพใส่เสื้อกาวน์หรือเสื้อกันเปื้อนแบบนี้ แต่แท้จริงความสำคัญของเสื้อกาวน์นี้ นอกจากใส่ให้คนรู้ว่าเราเป็นหมอแล้ว เสื้อกาวน์เป็นเหมือนเครื่องหมายแห่งความสำเร็จ ที่ตอนนี้เราได้เดินมาครึ่งทางของการเป็นแพทย์แล้ว เมื่อเราเรียนจบชั้นปีที่ 6 ต้องใส่ชุดนายแพทย์ ไม่ใช่นักศึกษาแพทย์อีกต่อไปแล้ว”

    “เสื้อกาวน์บ่งบอกถึงวิชาชีพหมอ บ่งบอกถึงความรับผิดชอบ เวลาใส่เสื้อกาวน์ให้นึกไว้เสมอว่ามันเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของวิชาชีพของเรา เราอยู่ในวิชาชีพอะไร เราคือแพทย์ แพทย์คืออะไร แพทย์คือผู้ช่วยเหลือผู้อื่น ที่ต้องนึกถึงประโยชน์ของผู้อื่นเป็นกิจที่หนึ่ง นึกถึงคนไข้เป็นกิจที่หนึ่ง การที่จะระลึกถึงผู้อื่นเป็นกิจที่หนึ่งได้นั้นมันยาก ส่วนใหญ่จะนึกถึงตัวเราก่อนทั้งนั้น  ดังนั้นเราต้องมีความพร้อมที่จะเข้าสู่วิชาชีพ ให้นึกถึงความสุขใจในความเป็นแพทย์ ความเป็นแพทย์นั้นต้องนึกถึงประโยชน์ของคนไข้ก่อนเสมอ ดังนั้นแพทย์ต้องมีความเมตตา มีความกรุณา มีความคิดที่จะช่วยให้เขามีความสุข พ้นทุกข์จากที่เขาทนทรมาน มีมุทิตาจิตต่อเพื่อนร่วมงาน ที่สำคัญคือมีอุเบกขา”

    “วิชาชีพแพทย์เป็นวิชาชีพที่มีคนเคารพ มีคนนับถือ เชื่อถือ มีอภิสิทธิ์มากว่าคนอื่นมาก เมื่อเขารู้ว่าเราเป็นแพทย์ เขาก็ให้เกียรติเรา เพราะเขารู้ว่าเรามีหน้าที่ดูแลชีวิตพี่น้องประชาชนทุกคน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่แพทย์ต้องมีความเมตตตาอยู่ในตัวเอง”

    “ชีวิตชั้นคลินิกกับชั้นปรีคลินิกแตกต่างกันมาก ต้องใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ให้เคารพคนไข้ เขาเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ถ้าไม่มีคนไข้ เราก็คงเก่งขึ้นไม่ได้ ที่สำคัญที่สุดคือความเป็นพี่เป็นน้อง เรียนรู้ประสบการณ์จากรุ่นพี่ ให้เกียรติสถานที่ ให้เกียรติกับคนทุกคน"

     “วันนี้เราเข้าพิธีสวมเสื้อกาวน์ เราเป็นแพทย์ครึ่งตัวแล้ว อีกนิดเดียวเราก็จะจบเป็นแพทย์โดยสมบูรณ์ เป็นบุคคลที่เป็นความภูมิใจของครอบครัว ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ สอบผ่าน จบเป็นแพทย์ได้ทุกคน ฝันให้ไกล ไปให้ถึง” รักษาการแทนคณบดีสำนักวิชาแพทย์กล่าว

.

คลิก ชมภาพเพิ่มเติม

  • 108 ครั้ง
  • #สำนักวิชาแพทยศาสตร์