มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ร่วมกับ สถาบันชาและกาแฟแห่งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เครือข่ายผู้ประกอบชากาแฟ สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เครือข่ายหอการค้า และ YEC ทั่วประเทศไทย เข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลเทอดไทย และตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิยาภรณ์ เชื่อมชัยตระกูล หัวหน้าสถาบันชาและกาแฟแห่งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า ทางสถาบันชาและกาแฟ ได้เริ่มดำเนินการระดมทุนเพื่อช่วยผู้ประสบภัยในพื้นที่ ตำบลเทอดไทย และตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง โดยได้รับการประสานจากเครือข่ายในพื้นที่ และจากนายก อบต.เทอดไทย เพราะตำบลเทอดไทยนับได้ว่าเป็นแหล่งปลูกชาแหล่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ ที่สถาบันชาและกาแฟแห่งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาและคัดเลือกผลิตภัณฑ์นำส่งประกวดในระดับนานาชาติ
ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2567 เกิดฝนตกหนักดินสไลด์ต้นไม้ล้มทับถนนเส้นหลักจาก บ้านเทอดไท-บ้านหัวแม่คำ ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง ชาวบ้านกว่า 200 ครัวเรือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ และขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม เพราะดินโคลนไหลปิดเส้นทางเข้าออกของชุมชน ทางสถาบันชาและกาแฟแห่งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้รับเงินบริจาคจากกลุ่มเครือข่ายผู้ประกอบชากาแฟทั่วประเทศ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นภารกิจในการระดมกำลังคน กำลังทรัพย์เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องบนดอย ซึ่งดำเนินการจัดซื้ออาหารแห้ง น้ำดื่ม และของใช้จำเป็นในการดำรงชีพ เช่น เทียนไข ไฟแช็ค ยากันยุง จัดส่งครั้งแรกในวันที่ 13 กันยายน 2567 โดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้ประสานงานในพื้นที่ เพราะหมู่บ้านยังถูกตัดขาด ชาวบ้านต้องเดินเท้าหรือใช้มอเตอร์ไซต์ ออกมารับน้ำและของกิน เพื่อนำกลับไปแจกจ่ายให้กับคนในพื้นที่
ภารกิจยังคงดำเนินต่ออย่างไม่หยุดยั้งเพราะมีพี่น้องบนดอยสูงจากตำบลเทอดไทย (มากกว่า 10 หมู่บ้าน จาก 19 หมู่บ้านใน ตำบลเทอดไท) และตำบลแม่ฟ้าหลวง (6 หมู่บ้าน 297 ครัวเรือน) ที่ยังรอคอยความช่วยเหลือ นอกจากพื้นที่เป้าหมายแล้ว ในระหว่างทางคณะทำงานได้พบกับกลุ่มพี่น้องที่ต้องการรับความช่วยเหลือในพื้นที่อื่น ๆ จึงได้จัดสรรอาหาร ของใช้เพื่อร่วมสมทบอีกด้วย
สถาบันชาและกาแฟแห่งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้เป็นสื่อกลางในการระดมความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน โดยในวันที่ 20 กันยายน 2567 เป็นการส่งมอบความช่วยเหลือในพื้นบ้านพญาคา บ้านจะตี บ้านป่าซางสูง บ้านแม่หม้อ ตำบลเทอดไท ซึ่งในวันนี้พี่น้องในพื้นที่ได้ช่วยกันขุดเปิดทางถนนเข้าหมู่บ้าน เพื่อให้รถนำสิ่งของเข้าไปให้ได้ลึกที่สุด อาหาร ของใช้ และน้ำดื่มที่นำไปในครั้งนี้ เช่น ไข่ต้ม จำนวน 1,500 ฟอง ไข่เค็ม 8 ลัง ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่ม ชุดที่นอน ยากันยุง ผ้าอนามัย และยารักษาโรค
สำหรับจังหวัดเชียงราย ถือว่าเป็นแหล่งปลูกชามากที่สุดในประเทศประมาณ 8 หมื่น 5 พันไร่ จากพื้นที่การปลูกชาทั้งหมดในประเทศประมาณ 1 แสน 5 หมื่นไร่ สร้างรายได้ให้กับจังหวัดเชียงราย ปีละหลายร้อยล้านบาท อุทกภัยในครั้งนี้นับได้ว่าส่งผลกับพี่น้องในพื้นที่อย่างร้ายแรงและส่งผลต่ออุตสาหกรรมชาของประเทศไทย
หมายเหตุ: เครดิตภาพจากหัวหน้าสถาบันชาและกาแฟแห่งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง