พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีมอบปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจาก มฟล. ประจำปีการศึกษา 2564

หมวดหมู่ข่าว: ข่าวเด่น

วันนี้ (7กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ไปยังหอประชุมสมเด็จย่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตำบลท่าสุด อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ในพิธีมอบปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประจำปีการศึกษา 2564 โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.ชยาพร วัฒนศิริ อธิการบดี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.วันชัย ศิริชนะ นายกสภามหาวิทยาลัยและอธิการบดีผู้ก่อตั้ง และคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ
.
จากนั้น ผู้แทนพระองค์ มอบปริญญากิตติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 2 ราย ได้แก่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณปรีชา เถาทอง ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสังคมศาสตร์ นายกลินท์ สารสิน ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ และมอบปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี จำนวน 1,747 ราย จาก สำนักวิชาวิทยาศาสตร์, อุตสาหกรรมเกษตร, วิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง, เทคโนโลยีสารสนเทศ, ศิลปศาสตร์, การจัดการ, นิติศาสตร์, นวัตกรรมสังคม, จีนวิทยา, วิทยาศาสตร์สุขภาพ, พยาบาลศาสตร์, แพทยศาสตร์, ทันตแพทยศาสตร์ การแพทย์บูรณาการ และเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ
.
ในการนี้ ประธานองคมนตรี ให้โอวาทแก่ผู้สำเร็จการศึกษาความว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีมอบปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประจำปีการศึกษา 2564. ขอแสดงความชื่นชมต่อผู้ทรงคุณวุฒิและบัณฑิตทุกคน ที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ. 
.
บัณฑิตทั้งหลายต่างก็สำเร็จการศึกษา สมกับที่ได้ตั้งใจพากเพียรมาโดยตลอดแล้ว ต่อไปก็ถึงวาระที่จะต้องออกไปทำงาน และดำเนินชีวิตในสังคมร่วมกับผู้อื่น. ในโอกาสนี้จึงขอฝากข้อคิดแก่บัณฑิตทุกท่านว่า การตั้งใจพยายามศึกษาเล่าเรียนจนบรรลุผลสำเร็จ ดังเช่นที่ท่านได้ปฏิบัติมาแล้วนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้โดยยาก และน่าสรรเสริญ แต่เมื่อสำเร็จการศึกษาออกไปแล้ว จะได้รับคำสรรเสริญชมเชย หรือคำตำหนิติเตียนอย่างไร ย่อมขึ้นอยู่กับการประพฤติตนปฏิบัติงานของแต่ละคนเป็นสำคัญ ผู้ใดทำดี ผลดีก็จะปรากฎขึ้นเป็นที่ประจักษ์ ควรแก่การยกย่องชื่นชม. ผู้ใดทำชั่วเสื่อมเสียหาย ผลร้ายอันพึงติเตียนก็จะบังเกิดทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น. บัณฑิตไม่ว่าจะทำการใด จึงต้องคิดใคร่ครวญถึงผลดีผลเสียให้แจ้งชัด แล้วประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่ดีที่ถูกต้อง ให้สมกับที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และได้เชิญพระราชสมัญญามาเป็นชื่อมหาวิทยาลัย. ถ้าแต่ละคนทำได้ดังที่กล่าว ความดีความเจริญก็จะบังเกิดขึ้น ทั้งแก่บัณฑิตเอง แก่มหาวิทยาลัย แก่สังคมส่วนรวม และแก่ประเทศชาติ. 
.
ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้บัณฑิตทุกคนและผู้มาร่วมในพิธีนี้ทุกท่าน ประสบความสุขสวัสดี พร้อมทั้งความเจริญรุ่งเรืองโดยทั่วกัน.”

  • 1804 ครั้ง